นักอนาคตศาสตร์ชี้ ในอนาคตหุ่นยนต์แอนดรอยด์จะแย่งงานมนุษย์ทำ

        นักอนาคตศาสตร์ชี้ ในอนาคตหุ่นยนต์แอนดรอยด์จะแย่งงานมนุษย์ทำ และมนุษย์ต้องพัฒนาตัวเองด้วยการใส่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ในร่างกาย
        นักอนาคตศาสตร์ (Futurologists) ชี้ หุ่นยนต์กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในอนาคต นอกจากมนุษย์จะต้องแข่งขันกันเองในการหางานทำแล้ว ยังจะโดนหุ่นยนต์แอนดรอยด์ แย่งงานทำภายในปี ค.ศ.2040 หรือ พ.ศ.2583 อีกด้วย
        ศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมพลาสติก ได้รับการคาดหมายว่า จะพัฒนาฝีมือไปถึงขั้นผ่าตัดเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของสมองมนุษย์ รวมถึงการผ่าตัดใส่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์เข้าไปในร่างกาย เพื่อเสริมสมรรถนะของร่างกายให้รวดเร็วเท่าเทียมกับจักรกล ซึ่งจะเพิ่มชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ขึ้นอีก 1 ใน 3 จาก 37.4 ชั่วโมง ในปัจจุบัน เป็น 50.5 ชั่วโมง และจะมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลง อันเป็นผลมาจากมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง
        จากการวิจัยของนักอนาคตศาสตร์ในอังกฤษ ระบุว่า ภายในปี ค.ศ. 2040 หรือปีพ.ศ. 2583 คนขับแท็กซี่จะเป็นหุ่นยนต์ของกูเกิล , ร้านค้าต่าง ๆ จะกลายเป็นโชว์รูมสำหรับสินค้าสั่งซื้อทางออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ ก็จะมีแต่พนักงานที่เป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์ ที่หน้าตาเหมือนมนุษย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หุ่นยนต์กำลังจะแย่งทั้งงานและการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปภายในเวลาไม่ถึง 30 ปี
        เมื่อประชากรหุ่นยนต์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งมีการแย่งงานกันทำมาขึ้น ทำให้มนุษย์ต้องหาทางอยู่รอด ด้วยการพึ่งศัลยแพทย์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลของสมองให้ดีเลิศขึ้นไปอีก และอาจรวมถึงการต้องผ่าตัดใส่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ไว้ตามอวัยวะของร่างกาย เช่น มือทั้งสองข้าง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วทัดเทียมกับเครื่องจักร
        ผลการวิจัยชิ้นนี้ ที่เผยแพร่ในเว็บไซท์ เอ็กซ์แพทจ็อบส์ ดอท คอม (xpatjobs.com) ระบุด้วยว่า คนจะมีความมั่นคงในการทำงานน้อยลง ทำให้ต้องเพิ่มชั่วโมงการทำงาน และเข้าสังคมน้อยลง และคนที่คิดว่ามีความเสี่ยงจะตกงาน ก็จะต้องปรับปรุงสมรรถนะของร่างกายของตัวเอง และจะทำรายได้ที่งดงามที่สุดสำหรับศัลยแพทย์
        ผลการศึกษายังไปไกลถึงขั้นที่ว่า แรงงานมนุษย์จะมีสายตาแย่ลง , อวัยวะเพศเล็กลง และมีคิ้วขมวดตลอดเวลา จากการที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องเพิ่มชั่วโมงการทำงานจาก 37.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 50.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่า คนจะหมกมุ่นอยู่กับการทำงาน และจะมีเวลามีเพศสัมพันธ์เพียง 2 ครั้งต่อเดือน
        ในอนาคต คนจะทำงานในแบบที่เรียกว่า "ไมโคร จ็อบส์" ที่ย้ายจากโต๊ะทำงาน ไปเป็นห้องนอนแทน และข้ามโซนเวลาที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งจะทำให้การสื่อสารระหว่างคน , การดื่มกับเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงาน เช่น การฉลองคริสต์มาสในสำนักงาน ก็จะหมดไปด้วยข้ออ้างที่ว่า ติดงาน

ที่มา : http://bit.ly/QKPUCP